ประวัติ Emily Rudd หนึ่งในนักแสดง One Piece ฉบับ Live Action

ประวัติ Emily Rudd หนึ่งในนักแสดง One Piece ฉบับ Live Action

ประวัติ Emily Rudd หนึ่งในนักแสดง One Piece ฉบับ Live Action ที่ได้รับบท นามิ เหมือนมากจนชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างล้นหลาม หลังจากที่ทาง Netflix ได้ประกาศรายชื่อนักแสดงเรื่อง ‘One Piece’ ฉบับ Live Action ออกมา ซึ่งตัวละครทั้ง 5 จะเป็นตัวละครที่รวมตัวกันตั้งแต่อยู่ในอีสบลูได้แก่ มังกี้ ดี ลูฟี่,โรโรโนอา โซโร,นามิ,อูซป และ ซันจิ ทำให้ชาวเน็ตต่างจับจ้องและให้ความสนใจกับ Emily Rudd สาวที่จะได้มารับบท นามิ ต้นหนของเรือกลุ่มโจนสลัดหมวกฟางนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลของเธอมาให้ได้อ่านกัน

เอมิลี่ รัด ( Emily Rudd) เกิดเมือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1993 

ปัจจุบันมีอายุ 28 ปี เกิดที่เซนต์พอล มินิโซตา สหรัฐอเมริกา มีพี่น้องร่วมกัน 2 คน โดยเธอเป็นคนเล็ก และมีพี่ชายชื่อว่า เดเนียล รัด (Daniel Rudd) เธอจบการศึกษาที่ St. Paul High School และด้วยความรักและชื่นชอบในการแสดง เธอจึงเข้าชมรมการละครตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียน

เธอได้เริ่มเดินทางสู่เส้นทางนี้กับมิวสิกวิดิโอเพลงหนึ่งในปี 2013 และก้าวเข้าสู่วงการนักแสดงเต็มตัวด้วยภาพบนตร์เรื่อง Sea Change ในปี 2017 โดยเธอรับบทที่สำคัญอย่าง มิแรนด้า หลังจากนั้นเธอก็ได้รับบทแสดงในซีรีส์เรื่อง Electric Dreams และเรื่องที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักสุดๆคือเรื่อง Fear Street ของทาง Netflix โดยเธอรับบทเป็น ซินดี้ เบอร์แมน นั่นเอง

นอกจากเรื่องการแสดงแล้ว เอมิลี่ยังได้เปิดชองยูทูบเป็นอของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า Emily Rudd Brasil นั่นเอง และเรื่องความรักเธอก็ไม่ได้ปกปิดใดๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังคบหาอยู่กับดีเจและโปรดิวเซอร์อย่าง Justin Blau หรือที่หลายๆคนรู้จักในชื่อ 3LAU ซึ่งเธอเคยได้เล่นเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงของเขาด้วย

สุดท้ายแล้วหลายๆคนที่ได้ยินชื่อ เอมิลี่ รัด คงสงสัยว่าเธอเป็นอะไรกับนักแสดงชื่อดังเจ้าของบทบาท Ant-Man อย่าง พอล รัด (Paul Rudd) ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้ออะไรกัน ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะคาดคิดกันไปว่าเธอจะเป็นสายเลือดเดียวกัน หรือเป็นญาติห่างๆของพอลก็ตาม

ตอนนี้ทำงานในกองถ่าย พี่ๆ ทีมงานก็เป็นคนอีสานกันซะส่วนใหญ่ พี่ทีมไฟ ทีมกล้องรู้ว่าเราชอบกินอาหารอีสาน เค้าก็จะทำมาเผื่อด้วยเวลาเบรกกินข้าวก็จะเป็นนักแสดงคนเดียวที่พี่ช่างไฟทำต้มต่างๆ มาเผื่อ 555 ไม่ว่าคนที่ไหนภาคอะไร มันวัดจิตใจกันไม่ได้หรอก มันอยู่ที่เค้าเป็นคนดี ไม่ว่าเกิดที่ไหนก็เป็นคนดี อันนี้ไม่รู้ว่าเรียกว่า attitude มั้ย แต่นี่เป็นความรู้สึก ที่ได้รับมา ไม่เคยตั้งแง่อะไรใครก่อนอยู่แล้วต้องสัมผัสก่อน ถึงจะบอกได้จ้า”

น้ำตาล ชลิตา เล่าชีวิตก่อนคว้ามง MUT ลำบากจนต้องขอข้าววัดกิน

‘น้ำตาล ชลิตา’ เล่าเส้นทาง ชีวิต ก่อนได้คว้ามง ‘Miss Universe Thailand 2016’ เผย ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ ๆ ลำบากจนถึงขั้นต้องขอข้าววัดกิน จากนางงามเจ้าของตำแหน่ง ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 (Miss Universe Thailand 2016)‘ ที่สวยหรู แต่ใครจะรู้ว่าสาว ‘น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์‘ นั้นเคยลำบากมาแค่ไหน โดยล่าสุด (8 พ.ย.) เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘คุยแซ่บShow‘ ทาง ‘ช่องone31‘ เล่าเส้นทางชีวิตก่อนได้รับตำแหน่ง เผย ไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ ๆ ลำบากจนถึงขั้นต้องขอข้าววัดกิน โดยระบุว่า

ไม่เคยเจอพ่อแท้ ๆ เลย ?

“ไม่เคยเลยตั้งแต่เกิด เขาอาจจะเลี้ยงหนูตอนเด็ก ๆ มาก ๆ เราโตขึ้นมาเราก็ไม่รู้แล้วว่าเรามีพ่ออยู่กับแม่มาตลอดจนไม่รู้สึกขาดอะไร คุณพ่อก็มีติดต่อมาบ้างผ่านพี่นุ่ม (ผู้จัดการ) แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร หรือเรียกยังไง เพราะเราไม่มีความรู้สึกว่าเราขาดตรงนั้น เลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ณ ตอนนี้ค่ะ

เขาบอกผ่านทางพี่นุ่มว่าอยากคุย อยากเจอหน้า แต่เรารู้สึกว่าถ้าอยากเจอมันก็น่าจะตั้งแต่เด็กแล้วที่เรายังเรียนอยู่ หรือที่เราลำบากอยู่ เขาน่าจะเอื้อมมือมาช่วยเราตรงนั้นแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเราผ่านความลำบากกับแม่มาในทุกๆ ช่วงในชีวิตมาเยอะมาก มันทำให้เรารู้สึกไม่ได้ขาดความอบอุ่นทางด้านครอบครัว”

พ่อพยายามติดต่อมาหลายครั้ง หลังจากนี้จะมีโอกาสได้เจอกันไหม ?

“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกไม่ถูก อยากเจอไหม หนูรู้สึกว่าไม่ได้อยากจะเจออะไรตรงนั้นแล้ว ไม่รู้จะทำตัวยังไง ทุกวันนี้พ่อที่อยู่กับหนู เขาก็ดูแลครอบครัว ช่วยดูน้องดูแม่ก็โอเคแล้ว”

บอกแม่ไหมว่าพ่อติดต่อมา ?

“บอกค่ะ แม่แล้วแต่หนูเลยว่าอยากคุยหรือเปล่า หรืออะไรยังไง”

ถ้าพ่อดูอยู่เขาจะเสียใจไหม ?

“หนูก็ไม่รู้จะพูดยังไง อาจจะมีนิดนึง ก็ขอบคุณที่ทำให้หนูเกิดมา แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ได้เหมือนกัน”

ลำบากตั้งแต่เด็ก ?

“แม่เคยเล่าให้ฟังตอนเด็ก ๆ ที่ออกมาจากพ่อ แม่เอาหนูมาคนเดียว ไม่มีเงินสักบาท ต้องไปขอข้าววัดกิน ไปให้ป้าช่วย ให้เพื่อน ๆ แม่ช่วย ชีวิตแม่กับหนูจะมีอุปสรรคในทุก ๆ ช่วงตลอดที่โตมาเลย แม่เจอเพื่อนโกง พอผ่านไปเรื่อย ๆ เหมือนลำบากขึ้น เราเจอหลาย ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ต้องไปอยู่ห้องแถวสังกะสีช่วงประถม มัธยม ตอนนั้นมันเหนื่อยจนน้อยใจโชคชะตามาก”

Credit : เว็บสล็อต